การพิมพ์บรรจุภัณฑ์ด้วยระบบดิจิทัล vs กราเวียร์: ต่างกันยังไง?
การพิมพ์บรรจุภัณฑ์ด้วยระบบดิจิทัล vs กราเวียร์: ต่างกันยังไง?
ขั้นตอนการพิมพ์ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูดสายตาและสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการพิมพ์หลัก 2 แบบที่ได้รับความนิยม คือ **การพิมพ์ดิจิทัล (Digital Printing)** และ **การพิมพ์กราเวียร์ (Gravure Printing)** ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
การพิมพ์ดิจิทัล (Digital Printing)
ข้อดี
- ไม่ต้องลงทุนทำบล็อกพิมพ์ → ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ
- เหมาะสำหรับการผลิตจำนวนน้อย หรือการทดสอบตลาด
- ความยืดหยุ่นสูง → แก้ไขไฟล์งานได้รวดเร็ว
- สามารถพิมพ์หลายดีไซน์ในล็อตเดียวได้ (Variable Data Printing)
ข้อเสีย
- ต้นทุนต่อหน่วยสูงหากผลิตจำนวนมาก
- คุณภาพสีอาจไม่สดเท่าการพิมพ์กราเวียร์
- อายุการเก็บรักษาสีอาจสั้นกว่า
การพิมพ์กราเวียร์ (Gravure Printing)
ข้อดี
- คุณภาพงานพิมพ์สูง สีสด คมชัด และทนทาน
- เหมาะกับการผลิตจำนวนมาก → ราคาต่อหน่วยถูกลงมาก
- ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมที่ใช้แพร่หลาย
ข้อเสีย
- ต้องลงทุนทำบล็อกพิมพ์ → ค่าใช้จ่ายสูงในครั้งแรก
- ใช้เวลาผลิตนาน ไม่เหมาะกับงานเร่งด่วนหรือปริมาณน้อย
- หากต้องการเปลี่ยนแบบ ต้องลงทุนทำบล็อกใหม่
วิธีเลือกให้เหมาะกับธุรกิจ
- สตาร์ทอัพ/SME: ควรเลือกการพิมพ์ดิจิทัล เพราะต้นทุนเริ่มต้นต่ำและยืดหยุ่น
- ธุรกิจขนาดใหญ่: เลือกการพิมพ์กราเวียร์ คุ้มค่ากว่าหากผลิตจำนวนมาก
- พิจารณาจากปัจจัยหลัก → ปริมาณการผลิต งบประมาณ เวลา และคุณภาพที่ต้องการ
สรุป
การเลือกวิธีการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจและความต้องการของตลาด การเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละระบบจะช่วยให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและประหยัดต้นทุน
สนใจออกแบบหรือผลิตบรรจุภัณฑ์คุณภาพ ติดต่อเราได้ที่
www.lsfpackaging.com
Line: @lsfpackaging
02-066-9090 , 080-987-9005 , 082-506-0780
Email : lsfpackaging@gmail.com